เนื่องจากความต้องการโซลูชันความบันเทิงภายในบ้านที่ทันสมัย ชาญฉลาด และยั่งยืนเพิ่มสูงขึ้น ผู้นำในอุตสาหกรรมจึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติใหม่
ตลาดขาแขวนทีวีทั่วโลก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าเกิน 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 (Grand View Research) กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ซึ่งขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แบรนด์ชั้นนำอย่าง Samsung, LG, Sanus, Peerless-AV และ Vogel's กำลังใช้กลยุทธ์เชิงรุกเพื่อคว้าส่วนแบ่งตลาดในภูมิทัศน์การแข่งขันนี้ นี่คือแนวทางการวางตำแหน่งของพวกเขาสำหรับอนาคต:
1. การบูรณาการกับระบบนิเวศบ้านอัจฉริยะ
เนื่องจากผู้บริโภค 68% ให้ความสำคัญกับความเข้ากันได้กับระบบบ้านอัจฉริยะ (Statista) แบรนด์ต่างๆ จึงได้ผสานรวมความสามารถด้าน IoT เข้ากับขาแขวนทีวี กลุ่มผลิตภัณฑ์ปี 2025 ของ Samsung มาพร้อมขาแขวนทีวีที่มีเซ็นเซอร์ในตัวที่ปรับมุมหน้าจอโดยอัตโนมัติตามแสงโดยรอบหรือตำแหน่งของผู้ชม โดยเชื่อมต่อกับระบบนิเวศ SmartThings เช่นเดียวกัน LG วางแผนที่จะเปิดตัวขาแขวนทีวีที่ควบคุมด้วยเสียง ซึ่งรองรับ Google Assistant และ Amazon Alexa
2. ความยั่งยืนเป็นจุดขายหลัก
ขณะที่ผู้ซื้อที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นแรงผลักดันความต้องการ แบรนด์ต่างๆ จึงให้ความสำคัญกับหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน Sanus ได้ให้คำมั่นว่าจะใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในผลิตภัณฑ์ภายในปี 2568 ขณะที่ Vogel's ของเยอรมนีได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “EcoMount” ที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ Peerless-AV ได้ร่วมมือกับบริษัทโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบรรจุภัณฑ์ ลดการปล่อยมลพิษจากการขนส่งลง 30%
3. การปรับแต่งเฉพาะสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่ม
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกแขนง บริษัทต่างๆ จึงนำเสนอการออกแบบแบบโมดูลาร์:
-
ภาคธุรกิจ:ซีรีส์ “Adaptis Pro” ของ Peerless-AV มุ่งเป้าไปที่ลูกค้าองค์กรด้วยขาตั้งที่รองรับจอภาพขนาด 85 นิ้วสองจอและระบบจัดการสายเคเบิลแบบบูรณาการสำหรับสถานที่ทำงานแบบไฮบริด
-
ที่อยู่อาศัยระดับหรูหรา:คอลเลกชัน “Artis” ของ Vogel ผสมผสานการตกแต่งระดับงานศิลปะเข้ากับการปรับความสูงด้วยมอเตอร์ โดยมุ่งเป้าไปที่ตลาดการออกแบบตกแต่งภายในระดับไฮเอนด์
-
การเล่นเกม:แบรนด์ต่างๆ เช่น Mount-It! กำลังเปิดตัวขาตั้งแบบปลดเร็วที่มีโปรไฟล์ต่ำซึ่งปรับให้เหมาะสมสำหรับจอภาพสำหรับเล่นเกมแบบกว้างพิเศษ
4. การขยายตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เนื่องจากคาดการณ์ว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีสัดส่วนยอดขายขาแขวนทีวีทั่วโลกถึง 42% ภายในปี 2568 (Mordor Intelligence) แบรนด์ตะวันตกจึงกำลังดำเนินกลยุทธ์เพื่อเจาะตลาดท้องถิ่น ซัมซุงได้เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาเฉพาะในเวียดนามเพื่อพัฒนาขาแขวนทีวีราคาประหยัดประหยัดพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยในเมืองขนาดเล็ก ขณะเดียวกัน ซานัสได้เข้าซื้อหุ้น 15% ในบริษัท HiCare Services ของอินเดีย เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายการติดตั้ง
5. บริการแบบสมัครสมาชิก
LG ปฏิวัติรูปแบบการขายแบบเดิมๆ ด้วยการนำเสนอโปรแกรม “Mount-as-a-Service” ในยุโรป ซึ่งรวมบริการติดตั้ง บำรุงรักษา และอัปเกรดไว้ในแพ็กเกจรายเดือน ผู้ใช้รุ่นแรกๆ รายงานว่ามีอัตราการรักษาลูกค้าเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับการซื้อครั้งเดียว
6. เครื่องมือช้อปปิ้งแบบ Augmented Reality (AR)
เพื่อลดการคืนสินค้าและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภค แบรนด์ต่างๆ จึงลงทุนในแอป AR ความร่วมมือระหว่าง Walmart และ Sanus ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพสินค้าในพื้นที่อยู่อาศัยผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการแปลงสินค้า (conversion rate) ในตลาดนำร่องได้ถึง 40%
ความท้าทายข้างหน้า
แม้นวัตกรรมจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ แบรนด์อย่าง Milestone AV ได้เพิ่มปริมาณสินค้าคงคลังสำรองขึ้น 20% ขณะที่แบรนด์อื่นๆ กำลังกระจายซัพพลายเออร์เพื่อลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ
“ขาแขวนทีวีไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์เสริมที่ใช้งานได้จริงอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของประสบการณ์บ้านอัจฉริยะ” มาเรีย เฉิน นักวิเคราะห์อาวุโสของ Futuresource Consulting กล่าว “แบรนด์ที่เชี่ยวชาญด้านความสมดุลระหว่างสุนทรียศาสตร์ ความชาญฉลาด และความยั่งยืน จะครองตลาดในทศวรรษหน้า”
ในขณะที่ปี 2025 กำลังใกล้เข้ามา การต่อสู้เพื่อชิงความเป็นหนึ่งในห้องนั่งเล่นก็เริ่มเข้มข้นขึ้น และตอนนี้ทีวีแบบติดเพดานก็กลายมาเป็นเทรนด์ที่มีความเสี่ยงสูง
เวลาโพสต์: 02-04-2025

